Loading...
Skip to Content


home > knowledge > 5 ขั้นตอนง่ายๆ ในการเริ่มนำเข้าสินค้าจีนสำหรับมือใหม่

ขั้นตอนการ นำเข้าสินค้าจีนสำหรับมือใหม่ แหล่งตลาดสินค้าจีน คำนวณค่านำเข้าสินค้าจีน

5 ขั้นตอนง่ายๆ วิธีนำเข้าสินค้าจีนสำหรับมือใหม่

ในยุคที่การค้าขายออนไลน์กำลังเฟื่องฟู คนจำนวนมากเริ่มสนใจ นำเข้าสินค้าจีนมาขาย ไม่ว่าจะเพื่อหารายได้เสริม หรือสร้างรายได้หลัก เพราะสินค้าจีนมีราคาถูก หลากหลาย และตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยในหลายกลุ่ม แต่สำหรับ มือใหม่ที่อยากขายของจีน และยังไม่เคยมีประสบการณ์ อาจรู้สึกว่ายาก ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก “ 5 ขั้นตอนง่ายๆ ” ที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้น ธุรกิจนำเข้าสินค้าจีน ได้อย่างมั่นใจ และลดความเสี่ยงในการเริ่มต้น

ขั้นตอนที่ 1 : ศึกษาตลาดและเลือกสินค้าที่ใช่

ก่อนจะเริ่มต้นนำเข้าสินค้าจากจีน สิ่งสำคัญคือ ต้องรู้ว่าตลาดต้องการอะไร เพราะต่อให้คุณหาสินค้าได้ราคาถูกแค่ไหน แต่ถ้าขายไม่ออก ก็ไม่ต่างจากต้นทุนจม

คำถามที่ควรถามตัวเองคือ:

  • ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร
  • สินค้าประเภทไหนกำลังเป็นที่ต้องการ
  • คู่แข่งขายสินค้าแบบเดียวกันในราคาเท่าไร
  • คุณสามารถเพิ่มจุดเด่นอะไรให้สินค้าน่าสนใจขึ้น

ตัวอย่างสินค้ายอดนิยมที่หลายคนเลือก นำเข้าสินค้าจีนมาขาย เช่น อุปกรณ์มือถือ, ของใช้ในบ้าน, เครื่องสำอาง, เสื้อผ้าแฟชั่น, ของเล่นเด็ก, สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง และอีกมากมาย

ขั้นตอนที่ 2 : หาแหล่งสินค้าที่เชื่อถือได้

หลังจากได้ไอเดียแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการหา แหล่งสินค้าจีน ที่มีคุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล และเหมาะกับรูปแบบธุรกิจของคุณ ซึ่งคุณสามารถเลือกได้จาก 3 ช่องทางหลักๆ :

1. แพลตฟอร์มออนไลน์

เช่น 1688.com, Taobao, Alibaba เหมาะสำหรับคนที่อยากเปรียบเทียบราคาด้วยตัวเอง แต่ต้องใช้ความชำนาญด้านภาษาจีนหรือมีตัวกลางช่วยแปล

2. ติดต่อโรงงานโดยตรง

หากคุณต้องการนำเข้าในปริมาณมาก และต้องการให้ผลิตสินค้าตามแบบที่คุณออกแบบเอง การติดต่อโรงงานจีนโดยตรงก็เป็นทางเลือกที่ดี

3. ใช้บริการบริษัทนำเข้าสินค้าจากจีน

สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์มาก การใช้ บริการนำเข้าสินค้าจีนผ่านบริษัทนำเข้า จะช่วยลดความเสี่ยงในการสั่งของผิด หรือเจอปัญหาขนส่ง และยังประหยัดเวลาได้มาก

ขั้นตอนที่ 3 : คำนวณต้นทุนให้รอบด้าน

จุดที่หลายคนพลาดคือ การคำนวณต้นทุนไม่ครบถ้วน เพราะการนำเข้าสินค้าจากจีน ไม่ได้มีแค่ราคาสินค้าเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องรวมไว้ด้วย เช่น:

  • ค่าขนส่งจากจีนมาไทย (ทางเรือ/ทางรถ)
  • ค่าขนส่งภายในประเทศจีน (จากโรงงานไปโกดัง)
  • ค่าบริการชิปปิ้ง / ภาษีศุลกากร
  • ค่าบริการรับของ / แพ็คสินค้า
  • ค่าธรรมเนียมโอนเงินหรือค่าแปลงสกุลเงิน

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเรื่องการคำนวณต้นทุนอย่างละเอียด คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ เทคนิคคำนวณต้นทุนสินค้านำเข้าจากจีนให้มีกำไร ซึ่งอธิบายไว้ครบถ้วน

ขั้นตอนที่ 4 : วางแผนขนส่งอย่างมืออาชีพ

หลังจากได้สินค้าและคำนวณต้นทุนแล้ว การเลือกวิธีขนส่งก็สำคัญเช่นกัน เพราะจะมีผลทั้งต่อ “ต้นทุนรวม” และ “เวลาที่สินค้าไปถึงมือคุณ”

รูปแบบการขนส่งจากจีนยอดนิยม:

  • ขนส่งจากจีนทางเรือ : เหมาะสำหรับสินค้าจำนวนมาก ราคาถูก ใช้เวลาประมาณ 12-25 วัน
  • ขนส่งทางจากจีนรถยนต์ : เหมาะกับสินค้าขนาดกลางถึงเล็ก ใช้เวลาน้อยกว่าทางเรือ 4-7 วัน

บริษัทนำเข้าสินค้าจีนหลายแห่งจะให้คุณเลือกวิธีขนส่งที่เหมาะกับงบประมาณและระยะเวลาที่คุณต้องการ

ขั้นตอนที่ 5 : วางแผนขาย – ช่องทาง + การตลาด

มีสินค้าพร้อมแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือ การขาย และสร้างยอดให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ช่องทางยอดนิยมในการขายของจีน:

  • ขายผ่าน Shopee, Lazada, TikTok Shop
  • เปิดเพจ Facebook, IG หรือ Line OA
  • ขายส่งให้กับร้านค้ารายย่อย
  • เปิดเว็บไซต์ขายของเอง

เทคนิคเบื้องต้นสำหรับการตลาด:

  • ถ่ายภาพสินค้าให้สวยงาม น่าเชื่อถือ
  • เขียนคำอธิบายสินค้าให้น่าสนใจ พร้อมจุดเด่นและประโยชน์
  • สร้างคอนเทนต์รีวิว หรือ How-to บนโซเชียลมีเดีย
  • ใช้โปรโมชั่นเริ่มต้น เช่น ลดราคา ส่งฟรี หรือแจกของแถม
  • ติดตามผลการขาย และปรับปรุงอยู่เสมอ

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มอย่างไร หรือกังวลเรื่องการสั่งของจากจีน ลองใช้บริการจากมืออาชีพอย่าง SM CARGO บริษัทนำเข้าสินค้าจากจีน ที่จะช่วยให้คุณเดินหน้าทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น


เฟสบุ๊คบริษัทนำเข้าสินค้าจากจีน SM CARGO คาร์โก้จีน ไลน์ติดต่อสอบถาม SM CARGO บริษัทนำเข้าสินค้าจากจีน ชิปปิ้งจีน เบอร์โทรติดต่อ SM CARGO บริษัทนำเข้าสินค้าจากจีน